ความเพียรไม่มีวันหมดอายุ หลวงปู่อายุ 91 ปี มุ่งมั่นสอบเปรียญธรรม 9 ยาวนาน 50 ปี

โลกโซเชียล ได้แชร์ภาพ พระสงฆ์รูปหนึ่งที่ มีอายุ ๙๐ ปี ที่มีความเพียรพยายาม ในการสอบเปรียญธรรม ๙ นานถึง ๕๐ปี  โดยพระสงฆ์รูปดังกล่าว คือ หลวงปู่มหาทอง หรือ พระมหาทอง ญาณสํวโร อยู่ที่วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวง ซ.อิสรภาพ ๒๓ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กทม.ล่าสุดเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ “พระมหาทอง ญาณสํวโร” (เปรียญธรรม ๘ ประโยค) เป็น พระราชวชิรญาณมงคล โกศลเทศนาวรกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นราช

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ “พระมหาทอง ญาณสํวโร” (เปรียญธรรม ๘ ประโยค) เป็น พระราชวชิรญาณมงคล โกศลเทศนาวรกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นราช สถิต ณ วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร

มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ ๔ รูป คือ พระครูปลัด ๑ พระครูสังฆรักษ์ ๑ พระครูสมุห์ ๑ พระครูใบฎีกา ๑

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๕  กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖

ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นปีที่ ๘ ในรัชกาลปัจจุบัน

อนึ่ง เพจพัดยศ สมณศักดิ์พระสงฆ์ไทย โพสต์ข้อความ ควรยกย่องเป็นอย่างยิ่ง พระผู้มีความเพียรพยายามมาก ในการเข้าสอบบาลีประโยค ป.ธ.๙ นานนับ ๕๐ ปี

“พระมหาทอง ญาณสํวโร” หรือ”หลวงพ่อทอง” (เปรียญธรรม ๘ ประโยค) เป็น “พระราชวชิรญาณมงคล สถิต ณ วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร ภูมิลำเนาหลวงพ่อ อยู่ที่บ้านทองหลางน้อย อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา อุปสมบท เมื่ออายุครบ ๒๑ ปี เดินทางมาอยู่ ที่วัดราชสิทธาราม กรุงเทพฯ ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ พระสหายที่มีชื่อเสียง สมัยเรียน ที่ประเทศอินเดีย MA(ป.โท) คือ หลวงพ่อพระพรหมดิลก วัดสามพระยา(อดีต) หลวงพ่อสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ อดีตเจ้าคณะใหญ่หนกลาง  อดีตเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เป็นต้น

 พระมหาทอง ญาณสํวโร  เปิดเผยว่า ที่ตั้งใจพากเพียรในการสอบเปรียญธรรม ๙ ประโยคนั่น เพราะมีความตั้งใจตั้งแต่เริ่มบวชบรรพชามา และความตั้งใจสูงสุดในการเป็นพระสงฆ์ ก็คือได้สอบเปรียญธรรม ๙ ประโยค คือสอบไม่ได้ก็สอบใหม่ไปเรื่อยๆจนมาได้ในตอนนี้ โดยบวชมาตั้งแต่อายุ ๒๑ ปี ปัจจุบันอายุ ๙๑ ปี แล้ว โดยในการสอบนั่น บางทีก็สู้เณรหรือพระสงฆ์อายุน้อยๆไม่ได้ ในส่วนตนเองนั่นมีความตั้งพยาม ร่ำเรียนในที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นวัดมหาธาตุ โดยตนเองนั้นไม่ทิ้งการเรียนผลขวายหาความรู้เสมอ

จึงอยากฝากถึงพระและเณรรุ่นใหม่ๆ ให้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย เพราะพระธรรมวินัยนั้นเป็นรากแก้ว ของพระพุทธศาสนา โดยเปรียบเสมือน ต้นไม้ถ้าไม่มีรากแก้วต้นไม้ก็ผุพังไปตามธรรมชาติโดยไว ดังเช่นพระพุทธศาสนา ถ้ามีความรู้หรือความตั้งใจ หรือแตกฉาน เข้าใจหลัก พระธรรมวินัย พระพุทธศาสนาของเราก็จะยั่งยืนต่อไป ในส่วนที่พระสงฆ์ที่ทำตัวไม่งามนั่น ก็อย่างจะบอกว่า อยากให้กลับตัวกลับใจประพฤติตนและปฏิบัติ ตามพระธรรมวินัยเราเป็นชาวพุทธ ควรสืบทอดศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าต่อไป บวชมาแล้วควรศึกษาเล่าเรียน และเผยแพร่พระพุทธศาสนาต่อญาติโยม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed