เลย- ศปป.4 กอ.รมน.-ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ตรวจสอบสร้างรีสอร์ทพื้นที่ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ

วันที่ 22 ก.พ.66 เวลา 1330 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นำโดยนายสมชาย ฉิมแย้ม, หน่วยป้องรักษาป่าที่ ลย.6 (นาแห้ว), นายก อบต.นามาลา และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ ตามข้อร้องเรียนพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ ปรับพื้นที่ขนาดใหญ่สร้างรีสอร์ท ร้านอาหาร และลานกางเต้นท์แคมป์ปิ้ง บริการนักท่องเที่ยว ชื่อ” 9 ง้อมแคมป์ปิ้งวิว” อยู่ริมถนนสาย ด่านซ้าย – เหมืองแพร่ บ.หนองหวาย หมู่ 5 ต.นามาลา อ.นาแห้ว จ.เลย อยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ เป็นพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้น 1 เอ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบริเวณประตูทางเข้า” 9 ง้อมแคมป์ปิ้งวิว” พบว่ามีไม้ไผ่ปิดกั้นประตูทางเข้า (ข่าวรั่ว) เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในไม่พบผู้ใดอยู่ในพื้นที่ แต่คณะเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนหาพยานหลักฐานความเชื่อมโยงจนชัดเจน ว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือผู้ครอบครองเดิม และขยายพื้นที่บุกรุกป่าใหม่ ซึ่งเป็นความผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 จึงดำเนินการจับค่าพิกัดพื้นที่บุกรุกยึดถือครอบครอง คำนวณเนื้อที่ได้ 5 – 3 – 57 ไร่ คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเบื้องต้นเป็นเงิน 883,500 บาท ตรวจยึดพื้นที่ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507ตรวจวัดขนาดสิ่งปลูกสร้างอาคาร และโดมที่พักถาวร รวม 7 หลัง ตรวจยึดอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งหมด ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ขณะตรวจสอบภายในรีสอร์ทพบไม้สักท่อนจำนวน 6 ท่อน วางกองอยู่บริเวณอาคารที่พัก ไม่พบรูปรอยดวงตราตีประทับแต่อย่างใด จึงตรวจยึดไม้สัก จำนวน 6 ท่อน ปริมาตร 0.34 ลบ.ม.คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 20,400 บาท ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้พ.ศ.2484 และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507

การตรวจยึดรีสอร์ท เก้าง้อมแคมป์ปิ้งวิว วันนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชุดปฏิบัติการ ศปป.4ฯ และหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นำโดยนายชาญชัย กิจศักดาภาพ ได้เข้าตรวจสอบ 9 ง้อมแคมป์ปิ้งวิวตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนพบนายไพโรจน์ แก้วเกษศรี แสดงตนเป็นผู้ถือครองที่ดิน และแจ้งว่าได้ทำประโยชน์ต่อมาจากบิดา มารดา มาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2536 ซึ่งเคยมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาสำรวจการถือครอง ปัจจุบันได้ร่วมกับนายวินิจ ยศปัญญา อายุ 58 ปีปรับพื้นที่ไร่เกษตรเดิม เพื่อทำลานกางเต้นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว แต่คณะเจ้าหน้าที่ได้อ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง พบว่าพื้นที่บางส่วนมีร่องรอยการทำประโยชน์มาก่อน เพื่อให้ได้รายละเอียดถูกต้องครบถ้วน จึงทำการอ่านแปลวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศโดยละเอียด เพื่อใช้ประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมาย ปรากฎว่ามีการบุกรุกขยายพื้นที่ทำกินเดิม ซึ่งผิดเงื่อนไขการทำกินในเขตป่าสงวนฯ ตามมติ ครม.30 มิ.ย.41

เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนายไพโรจน์ฯ ให้การยอมรับว่าได้ขายที่ทำกินให้กับนายวินิจฯ ในราคา 5 แสนบาท เพื่อก่อสร้าง “9 ง้อมแคมป์ปิ้งวิว” โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร และก่อสร้างถนนคอนกรีตกว้าง 4 เมตร ยาว 256 เมตร จาก อบต.นามาลา แต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และอยู่ในเขตป่าสงวนฯ อบต.นามาลา จึงไม่อนุญาตให้ก่อสร้าง แต่นายวินิจฯ ไม่เชื่อฟังกลับก่อสร้างอาคารถาวรจนเสร็จ รวม 7 หลัง และเปิดให้บริการรับนักท่องเที่ยวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยพื้นที่ก่อสร้าง” 9 ง้อมแคมป์ปิ้งวิว” นายวินิจฯแสดงตนเป็นเจ้าของชัดเจน โดยย้ายภูมิลำเนามาจากต.นาบึง เป็นผู้ขอบ้านเลขที่ 162 หมู่ 5 ต.นามาลา อ.นาแห้ว ด้วยตนเอง การกระทำของนายวินิจฯ ดังกล่าว จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522เจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึกการตรวจยึดพื้นที่บุกรุก เนื้อที่ 5 – 3 – 57 ไร่, อาคาร 7 หลัง และตรวจยึดไม้สัก 6 ท่อน ส่งพงส.สภ.นาแห้ว ดำเนินคดี เพื่อติดตามตัวนายวินิจฯ และผู้ร่วมกระทำผิด มาดำเนินคดี โดยมอบให้หน่วยป้องรักษาป่าที่ ลย.6 (นาแห้ว)เป็นผู้กล่าวโทษ

——————————————
พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed