ครูสาวเพชรบูรณ์ขับเก่งชน จยย.ไฟลุกท่วม คนขับ จยย.เสียชีวิตคาที่
วันที่ 6 ต.ค.2566 เวลา 18.30 น. พ.ต.ท.สุกิจ จันทร์แก้ว พนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.ชนแดน อ.ชนแดน ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์บนถนน ชมรฐีเวช ชนแดน – ดงขุย ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 33-34บ้านกุฏิพระ ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และเกิดเพลิงไหม้ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์จึงประสานไปยังรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลท่าข้ามมาช่วยดับไฟ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อเอ็มจี สีบรอนด์ ทะเบียน กธ 7267 เพชรบูรณ์ ชนอยู่กับตู้ควบคุมไฟฟ้าข้างทางและมีไฟลุกไหม้บริเวณหน้ารถ เจ้าหน้าที่จึงรีบฉีดน้ำจนดับ ห่างออกไปประมาณ 100 เมตรพบรถจักรยานยนต์ไฟกำลังลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงระดมฉีดน้ำจนดับพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าไม่ทราบสี และ หมายเลขทะเบียน เนื่องจากถูกไฟไหม้ มีสภาพเป็นเศษเหล็ก ใกล้กันพบศพหญิงใส่กางเกง ขายาว สีขาว สวม เสื้อคลุม แขนยาว สีเทา สภาพด้านหน้ามีแผล เหวอะวะ จนจำ ใบหน้าไม่ได้ นอนเสียชีวิตติดอยู่กับโคนต้นไม้ ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.หยาดฟ้า บุญมาก อายุ 19 ปีอยู่บ้านเลขที่ 305 หมู่ 5 บ้านคลองปลาหมอ ต.ศาลาลาย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์
นางนัฐณิชา โทนแจ้ง อายุ36ปี เจ้าของรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวให้การว่าตนเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนบ้านตะกรุดจั่น ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน และจะขับรถกลับบ้านที่เพชรบูรณ์ทุกวัน โดยในวันนี้หลังโรงเรียนเลิกตนก็ขับรถกลับบ้านมาตามถนนเส้นดังกล่าว เมื่อใกล้ถึงที่เกิดเหตุพบว่ามีรถจักรยานยนต์ขับอยู่ด้านหน้าตนจึงเร่งเครื่องเพื่อจะแซง แต่แล้วจู่ ๆ รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวก็เลี้ยวขวาตัดหน้าตนหักหลบไม่ทันจึงชนเข้าอย่างจัง จนรถของตนเสียหลักตกลงไปข้างทางและชนกับตู้ควบคุมไฟจนเกิดไฟลุกไหม้ตนจึงหนีออกมาได้หวุดหวิด
ทางด้านนาย พงศธร เสพสุข อายุ 21 ปี แฟนหนุ่มผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่าตนเองได้เดินทางมาจากจังหวัดสุรินทร์ เพื่อพบกับผู้ตาย และนัดเจอกันบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ทันได้เจอหน้ากันก็มาประสบเหตุเสียชีวิตเสียก่อน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบสันนิษฐานว่าก่อเกิดเหตุรถยนต์เก๋งได้ขับมาตามเส้นทางปกติ เมื่อมาเจอรถจักรยานยนต์จึงเร่งเครื่องแซง แต่รถจักรยานยนต์ได้เลี้ยวขวากะทันหัน รถยนต์เก๋งจึงชนเข้าอย่างจังเกิดเกิดไฟไหม้ทั้งรถยนต์เก๋งและรถจักรยานยนต์และทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงและทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
เดชา มลามาตย์–รายงาน