ข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์ วันที่ 3 เมษายน 2566
ธนาธร ประธานคณะก้าวหน้า ลงพื้นที่เพชรบูรณ์ช่วย‘ก้าวไกล‘หาเสียง
วันที่ 1 เมษายน 2566 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางมาแนะนำและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. .เพชรบูรณ์ พรรคก้าวไกล ทั้ง 6 เขต ที่สวนสาธารณะเพชะบุระ(จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณฺ์เก่า)โดยตั้งแต่ช่วงเช้า นายธนาธรพร้อมผู้สมัคร สส.ได้ทำกิจกรรมหาเสียงกับพี่น้อง ประชาชนที่มาออกกำลังกายและประชาชนในละแวกดังกล่าว ซึ่งได้รับเสียงตอบรับชื่นมื่นและขอถ่ายเซลฟี่กันอย่างคึกคัก
นายธนาธร กล่าวกับผู้มาฟังการปราศัยว่า ตนมาให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เพชรบูรณ์ ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ส่งลงครบทั้ง 6 เขต ทุกคนมีความพร้อมเตรียมตัวมาเป็นเวลาร่วมปี และลงพื้นที่เพื่อรับทราบถึงปัญหาในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เนื้อหาของการปราศรัยของนายธนาธรเน้นย้ำถึงปัญหาสภาพทางเศรษฐกิจของประชาชนในปัจจุบัน ที่เป็นสาเหตุความจำเป็นของการมีรัฐสวัสดิการ โดยนายธนาธรระบุว่า ช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแต่ห่างขึ้นทุกวัน สถานการณ์โควิดในรอบสามปีที่ผ่านมายิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ประชาชนหมดสิ้นความหวัง ในสถานการณ์แบบนี้สังคมไทยต้องมีรัฐสวัสดิการรองรับคนที่พ่ายแพ้ไม่ให้ถูกบดขยี้จากสภาพสังคมปัจจุบัน
ประเทศไทยวันนี้ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาสังคมสูงวัย เด็กเกิดใหม่ลดจำนวนลงเหลือปีละ 5 แสนคน คนไม่อยากมีลูกเพราะการมีลูกมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ยิ่งทำให้คนมีลูกน้อยลง จะแก้ปัญหานี้ได้ต้องมีรัฐสวัสดิการเท่านั้น เพื่อเป็นกลไกให้คนยืนอยู่ในสังคมได้อย่างมั่นคง ไขว่คว้าหาความฝันในชีวิต เลือกเส้นทางชีวิตเดินได้
นายธนาธรยังกล่าวต่อไป แต่ทั้งหมดจะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ ในการหางบประมาณมาสร้างรัฐสวัสดิการ เช่น การปฏิรูปกองทัพ ลดงบประมาณกองทัพที่ไม่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ทุกวันนี้กองทัพเข้ามาทำเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่มากมาย ทั้งหวย มวย ม้า สนามกอล์ฟ รีสอร์ต หากเราสามารถยกเลิกธุรกิจกองทัพได้ ประเทศเราจะมีเงินประมาณคืนกลับมาได้ถึง 5 หมื่นล้านบาทต่อปี รวมทั้งเก็บภาษีคนรวยมาดูแลคนจน เช่น ภาษีนิติบุคคลที่เรียกเก็บจากบริษัทขนาดใหญ่ ยกเลิกสิทธิ BOI ที่ให้กับบริษัทขนาดใหญ่ระดับร้อยล้านพันล้านขึ้นไป ถ้าทำสำเร็จจะได้อีก 8 พันล้านบาทต่อปี รวมถึงการเก็บภาษีความมั่งคั่ง จากคนรวยที่มีทรัพย์สินเกิน 300 ล้านบาท จะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 6 หมื่นล้านบาทต่อปี
นายธนาธรกล่าวต่อไป ว่าหากเพียงสามารถดึงงบประมาณเหล่านี้ออกมาจากมือของกองทัพ ระบบราชการ และนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้ การทำรัฐสวัสดิการก็ไม่ใช่เรื่องยาก เรื่องเดียวที่ยากคือการมีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ในการปฏิรูปกองทัพ ระบบราชการ และระบบภาษี ซึ่งประเทศไทยไม่เคยมีใครกล้าพอที่จะแก้ปัญหาเรื่องยากๆ เหล่านี้ มีแต่เพียงนโยบายปะผุไปเป็นครั้งๆ วันนี้สังคมไทยยิ่งต้องการการปฏิรูปเรื่องยากๆ แบบนี้ และวันนี้มีเพียงพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่กล้าทำ กล้าพูดในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าพูดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
“พรรคก้าวไกลจะต่อสู้แทนทุกท่าน พร้อมยืนเคียงข้างผู้ถูกกดขี่ ผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรม นี่คือเหตุผลที่มีพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา และกลายมาเป็นพรรคก้าวไกลในวันนี้ ใครทึ่ได้เลือกพรรคอนาคตใหม่ปี 2562 แล้วรู้สึกว่าคุ้มมากตนขอบอกเลยว่าก้าวไกลปี 2566 ดีกว่าอนาคตใหม่ 2562 เสียอีก สี่ปีที่ผ่านมาพวกเรามีประสบการณ์และเข้มแข็งมากขึ้น ก้าวไกล 2566 จะเป็นการลงทุนที่คุ้มกว่าเดิมสำหรับทุกท่าน ขอให้ประชาชนจ้างพวกเราไปปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนด้วยการไปช่วยกันกากบาทเลือกพรรคก้าวไกลในวันที่ 14 พฤษภาคม อนาคตใหม่ก้าวไกล เพื่อประเทศไทยไม่เหมือนเดิม จากนั้นนายธนาธรได้ขึ้นรถแห่ปราศัยไปตามถนนรอบเมืองเพชรบูรณ์และเดินทางไปทำกิจกรรมหาเสียงในพื้นที่อำเภอหล่มสักและอำเภอเขาค้อต่อไป
สำหรับว่าผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้ง 6 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายกฤติเดช แก้วเพียร เขต 2 นายยุทธชัย คำตัด เขต 3 นายศิริวิชช์ ทองคำ เขต 4 นายหลุย บุญสะอาด เขต 5 นายนันทวัฒน์ บุญถูก และ เขต 6 นางสาวภิญญาภัทร อาภากฤษฎี
สปสช.เขต 2 ประชุมคณะทำงานสื่อสารประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ เข้าใจสิทธิบัตรทอง
.
วันที่ 31 มีนาคม 2566 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 2 พิษณุโลก จัดประชุมคณะทำงานด้านสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในพื้นที่เขต 2พิษณุโลก ครั้งที่ 1/2566 ที่ห้องประชุม สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 2 พิษณุโลก รูปแบบการประชุมแบบผสม (แบบปกติและผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) โดยมีนายเสน่ห์ มีพร้อม ประธานคณะทำงานเป็นประธานการประชุม และนพ.พรเทพ โชติชัยสุวัฒน ผู้อำนวยการกลุ่มจังหวัด สปสช.เขต 2 พิษณุโลก ในฐานะที่ปรึกษา คณะทำงานฯ กล่าวต้อนรับคณะทำงานฯ ซึ่งเป็นผู้แทนเครือข่าย/องค์กรสื่อมวลชนท้องถิ่น ผู้รับผิดชอบงานกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) จากอบต./เทศบาล เข้าร่วมประชุมจำนวน 15 คน
.นพ.พรเทพ โชติชัยสุวัฒน ผู้อำนวยการกลุ่มจังหวัด สปสช.เขต 2 พิษณุโลก กล่าวว่า การพัฒนาสื่อเพื่อให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจสิทธิประโยชน์ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากเนื้อหามีจำนวนมาก และเปลี่ยนแปลงเร็ว การทำให้ประชาชนรับรู้ เข้าใจ และเข้าถึงบริการตามชุดสิทธิประโยชน์จำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละช่วงวัย คณะทำงานฯ จึงมีส่วนสำคัญในการให้ข้อเสนอแนะเพื่อสำนักงานฯ นำไปปรับปรุงและพัฒนาสื่อให้มีความเหมาะสม โดยเฉพาะประเด็นนโยบายใหม่ 30 บาทรักษาทุกที่ตามเหตุสมควร การรับบริการที่ร้านยา การเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กลุ่มวัยทำงาน การเรียกเก็บค่าบริการโดยไม่มีสิทธิเรียกเก็บ และการสื่อสารผลงานเด่น กปท. เขต 2 พิษณุโลก
.สำหรับมติที่ประชุมมีข้อเสนอ ดังนี้ (1) พัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจสิทธิบัตรทองได้อย่างเหมาะสมตามกลุ่มช่วงวัย (2) จัดตั้งทีมบรรณาธิการข่าวเพื่อพัฒนาเนื้อหาและรูปแบบการสื่อสาร (3) พัฒนาการสื่อสารผลงานเด่น กปท. โดย อบต./เทศบาล มีส่วนร่วม ไม่เพิ่มภาระคนทำงาน (4) พัฒนาช่องทางการสื่อสารเพิ่มเติม เช่น หอกระจายข่าวหมู่บ้าน อบรมพัฒนาสื่อบุคคลที่มีความใกล้ชิดประชาชน
จังหวัดเพชรบูรณ์จัดพิธีทอดผ้าป่ากองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
วันที่ 3 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. ที่วัดเพชรวราราม พระอารามหลวง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566 โดยมี นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายสุเมธ ธีรนิติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวัชระ ธรรมปัญญาสกุล พัฒนาการจังหวัดเพชรบูรณ์ นางวาสนา ธีรนิติ หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้แทนส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน ร่วมพิธี
ทั้งนี้ กองทุนพัฒนาเด็กชนบท ได้จัดตั้งขึ้นโดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนที่ครอบครัวยากจนและด้อยโอกาส ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณารับกองทุนพัฒนาเด็กชนบทไว้ในพระราชูปถัมภ์ โดยพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ชื่อว่า “กองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” กระทรวงมหาดไทย เพื่อจัดหารายได้สมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบท และนำไปช่วยเหลือเด็กก่อนวัยเรียนที่ครอบครัวยากจนและด้อยโอกาสในชนบท ซึ่งการทอดผ้าป่าครั้งนี้มีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ จำนวนทั้งสิ้น 113,682 บาท เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาเด็กชนบทในจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
การรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์วันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก
3 เมษายน 2566 เวลา 08.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ บรรยากาศการรับสมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จังหวัดเพชรบูรณ์ วันแรก เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีว่าที่ผู้สมัครทยอยเดินทางเข้ามาสมัครพร้อมกองเชียร์จำนวนมากที่ถือดอกไม้ พวงมาลัย และป้ายเชียร์ มาคอยให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัคร นอกจากนี้ผู้สมัครบางรายยังมีรถแห่หาเสียง ที่มีแผ่นป้ายรูปผู้สมัครพร้อมช่องว่างสำหรับใส่หมายเลข เพื่อใช้หาเสียงหลังสมัครเสร็จ โดยขั้นตอนการสมัครมี นายสุวิทย์ ศรีวงษา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ คอยอำนวยให้ความสะดวกแก่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
การรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ในวันแรก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จับสลากผู้สมัคร ว่าจะได้หมายเลขลำดับการยื่นเอกสารใด เช่น ถ้าผู้สมัครใดจับสลากได้หมายเลข 1 จะเป็นผู้ยื่นเอกสารใบสมัครเป็นคนแรก หากเอกสารหลักฐานครบถ้วนจะได้รับใบรับสมัคร (ส.ส.4/1 1) ถือว่าการสมัครเสร็จสิ้นสมบูรณ์ และสามารถนำหมายเลข 1 ไปใช้หาเสียงเลือกตั้งได้ แต่หากเอกสารหลักฐานประกอบและค่าธรรมเนียมไม่ครบถ้วน เจ้าหน้าที่ต้องคืนเอกสารทั้งหมดให้ไปแก้ไขแล้วไปสมัครใหม่ภายหลัง โดยจะเรียกผู้สมัครที่จับสลากได้ลำดับที่ 2 เข้าไปยื่นเอกสารแทน และผู้ที่ได้ลำดับที่ 2 จะได้ลำดับการยื่นเป็นหมายเลข 1 ซึ่งจะได้หมายเลขนี้ไปใช้หาเสียงแทน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ ยังเปิดรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ถึงวันที่ 7 เมษายน 2566 ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมที่ 056-712002 หรือ 056-725574
สำหรับจังหวัดเพชรบูรณ์แบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 6 เขต มีหน่วยเลือกตั้ง 1,654 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนทั้งสิ้น 787,986 คน เป็นชาย 382,608 คน และเป็นหญิง 405,378 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตรวจสอบรายชื่อได้เมื่อ กกต.เขตประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งภายใน 18 เมษายน 2566 ณ หน่วยเลือกตั้งใกล้บ้าน หรือจากแอปพลิเคชัน Smart Vote หรือหนังสือแจ้งเจ้าบ้านที่ กกต.จะจัดส่งให้ทุกหลังคาเรือน