สมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา พล.ม.1 มอบอุปกรณ์กีฬา และร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 นางอัจจิมา สถาพรผล ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กองพลทหารม้าที่ 1 พร้อมคณะฯ ได้เป็นประธานในพิธีมอบอุปกรณ์กีฬา และร่วมกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ที่โรงเรียน กงกะยาง ต.บ้านโคก อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ตามที่ กองพลทหารม้าที่ 1 กำหนดทำการฝึกเป็นกองพัน ของกองพลทหารม้าที่ 1 ประจำปี 2566 ในห้วงวันที่1 ถึง 8 มีนาคม 2566 ณ บริเวณพื้นที่ฝึก อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ และอำเภอหล่มสักจังหวัดเพชรบูรณ์
เพื่อให้การดำเนินปฏิบัติงาน ด้านกิจการพลเรือน ในพื้นที่ฝึกตามนโยบายของกองทัพบก ฝ่ายกิจการพลเรือน กองพลทหารม้าที่ 1 ได้จัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ได้แก่ชุดแพทย์เคลื่อนที่ออกรักษาพยาบาลประชาชนในพื้นที่ห่างไกล กิจกรรมตัดผมให้เด็กนักเรียน ประชาชน กิจกรรมการผลิตน้ำดื่มสะอาดแจกประชาชน และการประกอบเลี้ยงอาหารกลางวัน ให้กับเด็กนักเรียน ชาวบ้าน โดยรถครัวสนาม รวมทั้ง พิธีมอบอุปกรณ์กีฬา ให้กับโรงเรียนกงกะยาง เพื่อให้เด็กนักเรียน ได้ใช้เป็นประโยชน์ ในการพัฒนาความพร้อมทางด้านกีฬา และร่วมกิจรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในลำดับต่อไป สำหรับ โรงเรียน กงกะยาง ต.บ้านโคก อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ มีนักเรียนทั้งหมด 80 คน ครู 10 คน ทำการเรียนการสอน ตั้งแต่ชั้น อนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6
จากการสอบถาม นางอัจจิมา สถาพรผล ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กองพลทหารม้าที่ 1 เผยว่า ตามที่สมาคมแม่บ้านทหารบก มีนโยบายให้สมาคมแม่บ้านทหารบก สาขาของหน่วย ในทุกพื้นที่ สนับสนุนการดำเนินงานของกองทัพบก ในโครงการต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งในวันนี้ สมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กองพลทหารม้าที่ 1 ได้สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือนในพื้นที่ฝึกของหน่วยกองพลทหารม้าที่ 1 ประจำปี 2566 โดยจัดกิจกรรม บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่างๆ ได้แก่ชุดแพทย์เคลื่อนที่รักษาพยาบาล ให้กับประชาชนในพื้นที่ กิจกรรมตัดผมให้เด็กนักเรียนและประชาชน กิจกรรมการผลิตน้ำดื่มแจกประชาชน การประกอบเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนโดยรถครัวสนาม และการมอบอุปกรณ์กีฬา ให้กับโรงเรียนกงกะยาง เพื่อใช้เป็นประโยชน์ ให้เด็กนักเรียนได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง พัฒนาความพร้อมของเด็กนักเรียน ให้เติบโตเป็นพลเมืองที่ดี เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่น และประเทศชาติ ให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ด้าน พ.ท.ณัฐา สุภายศ ผบ.ช.พัน8 พล ม.1 เผยว่า วันนี้ได้นำรถผลิตน้ำดื่ม เพื่อบรรเทาสาธารณภัย มาผลิตน้ำดื่มแจกจ่ายชาวบ้านในพื้นที่ที่ทำการฝึก จำนวน 200 ขวด ขณะที่ พ.ท.ณัฐวุฒิ ดวงแดง ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่8 กล่าวว่า วันนี้ จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ออกตรวจรักษาโรคทั่วไป และตรวจรักษาฟัน มีชาวบ้านเข้ารับบริการราว 50-60 ราย
สอน.ตรวจเยี่ยมสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินี อ.หล่มสัก
3 มีนาคม 2566 นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ ที่ปรึกษามูลนิธิสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินี (สอน.) ประธานคณะตรวจเยี่ยม พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี บ้านงิ้วงาม อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มูลนิธิพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินี กำหนดตรวจเยี่ยมในปี 2566 ทั่วประเทศจำนวน 45 แห่ง เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน รับทราบปัญหา และวางแผนสนับสนุนการพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ ให้มีคุณภาพประสิทธิภาพและสมพระเกียรติ โดยมี นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ นายอำเภอหล่มสัก รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ คณะแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้แทนประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่สถานีอนามัย และอาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.)ร่วมให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงาน ซึ่งสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี บ้านงิ้วงาม มีการพัฒนาให้มีระบบการบริการสุขภาพในระดับปฐมภูมิที่มีคุณภาพมาโดยลำดับ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในชุมชน มีความต้องการสนับสนุน งบประมาณ ในการปรับปรุงห้องทันตกรรม จัดทำเป็น negative pressure room
นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ ที่ปรึกษามูลนิธิสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินี (สอน.) ประธานคณะตรวจเยี่ยม กล่าวว่า มูลนิธิสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินี และ กระทรวงสาธารณสุข ได้มาตรวจเยี่ยมสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี บ้านงิ้วงาม เพื่อมาติดตามงาน โดยจะมาทุก 2 ปี แต่ละครั้งที่มาติดตามงานให้ข้อคิดและโจทย์กับสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ ว่ามีอะไรต้องพัฒนาบ้าง พร้อมกับมารับทราบปัญหาอุปสรรคสิ่งที่ต้องการขอรับการสนับสนุน อะไรที่เป็นปัญหาหากแก้ได้เราก็จะทำทันที แต่หากยังแก้ไม่ได้เราก็จะรับกลับไปที่ มูลนิธิพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี สิ่งสำคัญของการลงพื้นที่ในวันนี้อีกอย่างก็คือ มาเป็นขวัญและกำลังใจกับผู้ปฏิบัติงาน เพราะที่นี่เจ้าหน้าที่ทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจทุ่มเทเพื่อประชาชนและอยากให้ชาวงิ้วงามมีสุขภาพที่ดี โดยเท่าที่ตรวจติดตาม ที่นี่มีเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอ สาธารณสุข และจังหวัดเพชรบูรณ์ และมีการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ ดี เก่ง งาม สมพระเกียรติ เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนให้ได้รับบริการด้านสาธารณสุขที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และทันสมัย
สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติงิ้วงาม เดิมชื่อสานักงาน ผดุงครรภ์อนามัยบ้านงิ้วงาม เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2511 โดย ทุนผูกพันของ นายจำรัส เสมาทอง กำนันตำบลลานบ่าในขณะนั้น ได้บริจาคที่ดินเนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน 44 ตารางวา และดำเนินการก่อสร้างสำนักงานผดุงครรภ์บ้านงิ้วงาม สิ้นงบประมาณ 20,000 บาท เมื่อนางสาวทิพย์วรรณ เสมาทอง (บุตรสาว) ผู้ได้รับทุนการศึกษา วิชาการผดุงครรภ์อนามัย ณ โรงเรียนผดุงครรภ์อนามัยจังหวัดลำปาง สำเร็จการศึกษาแล้วได้กลับมารับราชการที่สำนักงานผดุงครรภ์บ้านงิ้วงาม เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2512 โดยใน ปี 2516 ได้รับการยกฐานะเป็นสถานีอนามัยตำบลลานบ่า และ ปี2535 สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี บ้านงิ้วงาม เป็นสถานีอนามัยขนาดใหญ่สร้างขึ้นด้วย เงินงบประมาณ และเงินบริจาคของประชาชนทั่วประเทศ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดีและเฉลิมฉลอง เนื่องในวโรกาส มหามงคลสมัยที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2535
เอาที่ราชพัสดุคืนไป คนเขาค้อ 4 ตำบลขอพื้นที่ที่ได้สิทธิ์ตามกฎหมายคืนมา
วันที่ 6 มีนาคม 2566 เวลา 09.00 น. ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีราษฎร จาก 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลเขาค้อ ตำบลหนองแม่นา ตำบลสะเดาะพง และ ตำบลริมสีม่วง ได้มารวมตัวกันกว่า 200 คน เพื่อร่วมกันคัดค้าน ไม่เห็นด้วยกับการที่ทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดิน ของทั้ง 4 ตำบล ให้เป็นพื้นที่ราชพัสดุ และเร่งรีบรวบรัดการทำประชาคมฯ ซึ่งบรรยากาศของการชุมนุมมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นแสดงความคิดเห็น สะท้อนความรู้สึกและแสดงออกไม่เห็นด้วยที่ภาครัฐมัดมือชกโดยการเร่งผลักดันให้พื้นที่่่่่อำเภอเขาค้อเป็นที่ราชพัสดุ พร้อมทั้งแจกเอกสารชี้แจงเหตุผลการที่ราษฏรออกมาคัดค้านไม่เอาที่ราชพัสดุในครั้งนี้โดยให้เหตุผลว่าที่ดินทำกิน/ที่อยู่อาศัยของราษฎร์ ทั้ง 4 ตำบลนั้นได้สิทธิตามระเบียบการจัดที่ดินฯของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติตามประมวลกฎหมายที่ดิน 2498 ซึ่งราษฎรต้องได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน โดยจังหวัดเพชรบูรณ์ทำโครงการจัดที่ดินผืนใหญ่เพื่อช่วยเหลือชาวนาชาวไร่ ครั้งที่ 1 เส้นทางทุ่งสมอ–เขาค้อ ข้างละ 1 กม. ระยะทาง 10 กม.จำนวนพื้นที่ 12,875 ไร่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ เมื่อ 1 กันยายน 2519
ครั้งที่2มี2โครงการเส้นทางเขาค้อ–สะเดาะพงข้างละ1กม.ระยะทาง14กม.จำนวน17,500ไร่และเส้นทางนางั่ว–หนองแม่นาระยะทาง 36 กม.จำนวน40,000ไร่ ทั้ง 2 โครงการได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ เมื่อ 26กรกฎาคม 2520กรมที่ดินได้ดำเนินการตามขั้นตอนถูกต้องระหว่างปี พ.ศ 2520-30กันยายน 2527 ขาดขั้นตอนการออกใบจอง(น.ส.2)ราษฎรได้เข้าอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และประกาศเป็นกิ่งอำเภอเขาค้อ เมื่อเดือนสิงหาคม 2527อีกทั้งมีพื้นที่ 6แปลงที่ฝ่ายทหารขอใช้พื้นที่ และจัดที่ดินให้ราษฎรตามข้อบังคับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในเขต 3 ว่าด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการจัดที่ดินตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก พ.ศ 2521 หมวดที่ 4 ว่าด้วยการจัดที่ดิน ข้อ 8 ต้องดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อประชาชนของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ พ.ศ 2498 เช่นกัน เพราะฝ่ายทหารไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดที่ดิน ต่อมา พฤศจิกายน 2529 ป่าสงวนฯประกาศทับโดยไม่กันพื้นที่ออก ทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งปี 2558 กระทรวงมหาดไทยเสนอให้มีการทบทวนการจัดที่ดินผืนใหญ่ทั้งหมดทุกโครงการทั่วประเทศตามคำแนะนำของปปช.โดยครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอเมื่อ 1 กันยายน2558 โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี คือ 30 กันยายน 2563 ซึ่งการทบทวนการจัดที่ดินแปลงใหญ่ดังกล่าวได้รวมถึงความเห็นของกระทรวงมหาดไทยข้อที่1.1.1(2)ให้กรมที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการประกาศเขตป่าสงวนที่ดินของรัฐและประกาศเขตปฏิรูปที่ดินทับซ้อนพื้นที่การจัดที่ดินโครงการจัดที่ดินผืนใหญ่ให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยเร็วโดยไม่ให้ราษฎรต้องเสียสิทธิโดยราษฎรได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังกรรมาธิการปปช.เพื่อให้ช่วยเหลือราษฎรให้ได้สิทธิตามกฎหมายกำหนด และอยู่ในขั้นตอนการการดำเนินการ
ซึ่งเมื่อวันที่2มีนาคม2566ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ประกาศกับชาวอำเภอเขาค้อที่ตั้งใจไปยื่นหนังสือเพื่อขอให้ทางราชการช่วยเหลือเร่งรัดให้สามารถดำเนินการขอสิ่งสาธารณูปโภคได้รวดเร็วแต่กลับปรากฏว่าได้แจ้งให้ประชาชนทราบว่าจะเร่งดำเนินการให้อำเภอเขาค้อเป็นที่ราชพัสดุทั้งหมดโดยประชาชนมองว่าเป็นการเอาพื้นที่ที่ได้สิทธิ์ตามกฏหมายกลับคืนไปเป็นของรัฐซึ่งถือเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของประชาชนที่ควรพึงมีพึงได้ตามกฏหมายกำหนดราษฎรชาวเขาค้อจึงขอคัดค้านการที่จะเอาที่ดิน/ที่บ้านของราษฎรที่ได้สิทธิ์ตามกฏหมายไปเป็นที่ราชพัสดุ ทั้งนี้ผู้ชุมนุมจะส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือคัดค้านกับนายอำเภอเขาค้อ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรักษสิทธิ์ที่ควรได้ต่อไป
Post Views: 2,657
